Around the World by Private Jet

บินด้วยเครื่องบินส่วนตัวสู่เมืองเซียม เรียบ (Siem Reap) เพื่อเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของนครวัด (Angkor) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเขมร ความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมสะท้อนจากสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่กินพื้นที่กว่า 100,000 เอเคอร์ ช่วงบ่ายมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านลอยนํ้าที่ทะเลสาบโตนเลสาบ (Tonle Sap) ชมประมงพื้นเมือง หรือลองทำอาหารพื้นเมืองของชาวกัมพูชาด้วยมือของท่านเอง

อีกทางเลือกหนึ่ง : ใช้เวลาตลอดทั้งวันที่นครธม (Bang MeaLea) หนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดของเขมร และชมสีสันอันหลายหลายในตลาดท้องถิ่น ช่วงเย็นเพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีพื้นบ้านและการเต้นรำของชาวกัมพูชา พร้อมกับรับประทานอาหารแสนอร่อย

บินตรงสู่เชียงดู (Chengdu) เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน (Sichuan) เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมือง รับประทานอาหารคํ่าพื้นเมืองสุดพิเศษ พร้อมกับชมการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้า(Bian Lian) ที่มีชื่อเสียงและสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตื่นตาตื่นใจกับหน้านักแสดงที่เปลี่ยนสามารถเปลี่ยนหน้าได้อย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันโดยไม่ใช้มือ

บินสู่กรุงลาซา (Lhasa) ที่อยู่สูงประมาณ 12,000 ฟิต เมืองหลวงของทิเบต (Tibet) และเมืองสำคัญของศาสนาพุทธ เยี่ยมชมจอกแฮง (Jokhang) วัดเก่าแก่ของทิเบต แล้วย้อนกับไปในอดีตที่ถนนเบงกอร์ (Barkhor) ถนนที่เก่าแก่ที่สุดและอยู่ใจกลางเมืองลาซา ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย หลังจากนั้นผจนภัยกับมรดกโลกที่พระราชวังโพตาลา (Potala Palace) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลทิเบตมากว่า 300 ปี และเป็นที่พักขององค์ดาไล ลามะ (Dalai Lama) หลังจากนั้นชม ซาลา โมนาเทอร์รี่ (Sera Monastery) ที่มีอายุมากกกว่า 600 ปี ที่ซึ่งพระใช้สำหรับโต้ปรัชญาทางศาสนากัน

อีกทางเลือกหนึ่ง : ยังคงอยู่ที่เชียงดู (Chengdu) มณฑลเสฉวน (Sichuan) เพื่อชมหมีแพนด้า ใช้เวลาตลอดทั้งวันไปกับการเรียนรู้ชีวิตหมีแพนด้า หลังจากนั้นเข้าสู่หลากหลายกิจกรรมเช่น เรียนการเล่นไพ่นกกระจอก, จิบชาในแบบดังเดิม, เดินชิล ชม และชิมที่ตลาดท้องถิ่น ช่วงเย็นลิ้มรสหม้อไฟเผ็ดที่ขึ้นชื่อของเสฉวนพร้อมกับเพลิดเพลินกับงิ้วของเสฉวน

บินตรงต่อไปที่เมืองอัคระ (Agra) เดินทางสู่ปราสาทอัคระ (Agra) ปราสาทหินสีแดงอายุกว่า 100 ปีที่ประกอบได้ด้วยปราสาทเล็กๆหลายหลัง สวน มัสยิต และห้องส่วนตัวที่สำหรับราชวงค์โมกุล ถ่ายรูปทัช มาฮาล (Taj Mahal) ยามพระอาทิตย์ขึ้นร่วมกับช่างภาพของเนชันเนล จีโอกราฟฟิค (National Geographic) แล้วเข้าไปเยี่ยมชมความสวยงานของสิ่งปลูกสร้างที่สร้างโดยจักรพรรดิชาห์ชะฮัน (Shah Jahan) เพื่อมอบให้กับภรรยาอันเป็นที่รัก หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือชมเมืองฟเตหปุระสีกรี (Fatehpur Sikri) ที่ครั้งหนึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโมกุล ช่วงบ่ายเดินทางสู่สุสานอิตมัดอุดดุลลาห์ (Tomb of Itmad-Ud-Daulah) หรือที่เรียกว่า เบเบี้ ทัช (ฺBaby Taj) สถาปัตยกรรมแบบโมกุลอันแรกของอินเดียที่สร้างด้วยหินอ่อนหรือเยี่ยมชมสุสานของอัค (Tomb of Akbar) สิ่งปลูกสร้างชื่อดังอีกสิ่งหนึ่งของราชวงค์โมกุล ตื่นตาตื่นใจไปกับการผสมผสานผินอ่อนสีขาวและหินทรายสีแดงเข้าด้วยกัน

บินสู่อุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี (Serengeti National Park) สถานที่ๆเป็นบ้านของตำนานที่เรียกว่า Big Five ซึ่งประกอบด้วย แรด สิงโต เสือดาว ช้าง และควายป่า ตามส่องชีวิตความเป็นอยู่ของพวกมัน พร้อมกับชมทัศนียภาพอันสวยงามของที่ราบเซเรนเกติ (Serengeti) แล้วมุ่งหน้าสู่ทั่งหญ้าซาวานน่า เพื่อชมฝูงวิลเดอร์บรีส(Wildebeests) และฝูงม้าลายขนาดใหญ่ และพบกับการต้อนรับสุดพิเศษด้วยเพลง การเต้นรำ และการแสดงท้องถิ่น

อีกทางเลือกหนึ่ง : บินต่อไปที่ปล่องภูเขาไฟโกรอนโกโร (Ngorongoro) ที่ซึ่งเป็นที่หลบภัยของสัตว์กว่า 25,000 ชนิดเช่น วิลเดอร์บรีส (Wildebeests) กาเซล (Gazelles) ม้าลาย นกหายากต่างๆ และสัตว์ที่ใกล้ศูนย์พันธุ์อย่างแรดดำ ช่วงเย็นกลับมายังวิลลาสุดหรู เนชันเนล จีโอกราฟฟิค ยูนีค เลาจ์ ออฟ เดอะ เวิลด์ (National Geographic Unique Lodge of the World) ที่ตั้งอยู่ริมปากปล่องภูเขาไฟ เพลิดเพลินไปกับซุ้มอาหารเที่ยง และการแสดงดนตรีโดยนักดนตรีท้องถิ่น

เปตรา (Petra) โบราณสถานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ระหว่างอาราเบีย อียิปต์ และ ลิแวนต์ ถูกสร้างขึ้นในลักษณะครึ่งตึก ครึ่งถํ่า ตั้งอยู่ที่หน้าผาหินทรายสีกุหลาบแดง แล้วเข้าเมืองผ่านทางเดินลมที่เรียกว่าซิค (Siq) ช่องแคบระหว่างหน้าผาที่จะเข้าสู่ท้องพระคลังโบราณ สัญลักษณ์ของเปตรา ตื่นตาตื่นใจไปกับงานแกะสลักบนกำแพงหิน รวมถึงสุสานกษัตรโบราณ บ้าน และวัด พบกับชุมชนชาวอาหรับเร่ร่อนไปทั่วทะเลทรายในตะวันออกกลาง รับประทานอาหารและชมการแสดงจากเบดูอิน ฟอร์คลอร์ (Bedouin folklore) แล้วมุ่งลงใต้สู่เมืองวาดิ รัม (Wadi Rum) ทะเลทรายอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงจากภาพยนต์ประวัติศาสตร์ลอร์เรนซ์ ออฟ อาราเบีย(Lawrence of Arabia) สำรวจทะเลทรายสีแดง เนินทรายสูงลิ่ว และหินรูปทรงน่าตื่นตาตื่นใจ ที่รู้กกันในชื่อเสาแห่งปัญญาทั้งเจ็ด (Seven Pillars of Wisdom) ชิลกับการจิบชาที่หมู่บ้านเบดูอิน (Bedouin) ท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงาม

เที่ยวรอบเมืองมาร์เรคเคช(Marrakech) เยือนเบน ยูเซฟ มาดดราซ่า (Ben Youssef Madrasa) ที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกของแดนใต้ ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมสไตร์โมรอคโคโบราณ4 เที่ยวชมสุเหร่าคูทูไบ (Koutoubia Mosque) และความสวยงามของปราสาทบาไฮ (Bahia) ผจนภัยบนถนนที่เสมือนเขาวงกตที่เมดิน่า (Medina) ซึ่งนำไปสู่ตลาดท้องถิ่น พบกับงานฝีมือมากมาย เยือนพิพิธภัณฑ์นํ้าหอม (Museum of Perfume) ที่มีกลิ่นมากมายที่เป็นตำนานอันยาวนาน และยังสามารถปรุงนําหอมกลิ่นใหม่ได้ตามที่ต้องการ หรือจะเลือกที่จะลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่จตุรัสดเจมา เอล ฟนา (Djemaa el Fna) หลังจากนั้นเดินชิลท่ามกลางพันธุ์ไม้สุดแปลกตาที่สวนมาโจเรลล่า (Majorelle Garden)

อีกทางเลือกหนึ่ง : เดินทางภูเขาเอทลาส (Atlas) ยอดเขาที่สูงที่สุดในแอฟริกาเหนือ ซึ่งสวยงามท่ามกลางทะเลทรายโดยรอบ อาธิเช่น หน้าผาสูง ป่า และหมู่บ้านเบอร์เบอร์ (Berber) รับประทานอาหารเที่ยงท้องถิ่นที่หมู่บ้านเบอร์เบอร์ (Berber) จิบชามินท์พร้อมกับดื่มดํ่าบรรยากาศชนบท

เดินทางสู่สำนักงานใหญ่เนชันเนล จีโอกราฟฟิค (National Geographic) และต้อนรับด้วยอาหารคํ่าบนดาดฟ้าของโรงแรมของเนชันเนล จีโอกราฟฟิค (National Geographic) ทำคามรู้จักทีมงานและเพื่อนร่วมทาง พร้อมกับชมวิวทำเนียบขาว(White House) และกรุงวอชิงตัน ดีซี (Washington D.C.) ยามคํ่าคืน

บินไปที่เมืองคัสโค (Cusco) ประตูสู่ดินแดนอินคา (Inca) เพื่อเที่ยวชมเมืองอันทรงเสน่ห์ สำรวจวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันระหว่างอินคา และสเปน หลังจากนั้นเดินขึ้นเหนือสู่ขุบเขาแห่งเทพเจ้าอูรูแบมบา (Urubamba Valley) สำรวจรูน ออฟ โมเรย์ (Ruins of Moray) หลุมขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อว่าถูกใช้สำหรับทำการทดลองเกี่ยวกับการเกษตร ดิน และธัญพืช เดินทางต่อสู่เหมืองเกลือมาราส (Maras) ที่มีบ่อเกลือมากมายไล่ลงมาตามเนินเขา หลังจากนั้นตรงไปสู่ยอดเขาแอนเดรียน (Andean) พบกับช่างทอผ้าโบราณนิลดา คาลลาเนาปา เอลเวอร์เรส (Nilda Callañaupa Alvarez) ซึ่งเป็นศิลปะการท่อผ้าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีต เดินทางสู่ป้อมหินโบราณโอเลนตายเทมโบ (Ollantaytambo) ก่อนจะเดินทางด้วยรถไฟสู่มาชู ปิคชู (Machu Picchu) สิ่งปลูกสร้างจากศตวรรษที่15 ของชาวอินคา เมื่อดูจากแท่นบูชาหิน วัด การวางรากฐาน บันได และระเบียงสวนแล้ว ทำให้ที่นี่กลายเป็นสิ่งมหัสจรรย์ทางโบราณคดีที่สำคัญที่หนึ่งของโลก

อีกทางเลือกหนึ่ง : บินสู่เมืองเปอร์โต มอลโดนาโด (Puerto Maldonado) สนุกสนานกับการล่องเรือแคนนูไปตามแม่นํ้ามาเดร เด ดิออส (Madre de Dios) สู่โรงแรมอินกาเตอร์รา ฮาเชียนดา คอนเซ็บชั่น (Inkaterra Hacienda Concepción) ที่ออกแบบเป็นกระท่อมสุดหรูกลางป่าอเมซอน เดินสำรวจพันธุ์อันหลากหลาย และสัตว์นานาพันธุ์ รวมถึงนกกว่าร้อยชนิด เดินผ่านอุโมงค์ต้นไม้ และสะพานแขวน พายเรือในทะเลสาบอันเงียบสงบ และสำรวจป่าฝนในยามคํ่าคืน

บินสู่เกาะอิสเตอร์ (Easter Island) ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งประเทศชิลี 2,300 ไมล์ ไกลจนเกิดคำถามว่า เกาะที่โดดเดียวอย่างนี้แต่ยังมีร่องรอยของอารายธรรมโพลินิเซียโบราณ และหินแกะสลักลึกลับ โมอาย(Moai) ร่วมถ่ายภาพกับช่างภาพของเนชันเนล จีโอกราฟฟิค (National Geographic) ที่จะช่วยให้ท่านได้ภาพที่สวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางภูมิประเทศที่หาดูยาก สำรวจปากปล่องภูเขาไฟ ทานลาวา และทุ่งหญ้า เยือนหมู่บ้านหินโอรอนโก (Orongo) ที่ตั้งอยู่กลางเกาะ และรูปแกะสลักเบิร์ดแมน (Birdman Cult) ที่มาความหมายถึงผู้ทรยศการแข่งขันในสมัยโบราณ หลังจากนั้นสนุกสนานกับการแสดงท้องถิ่นจากคณะนักเต้นคาริ คาริ (Kari Kari)

เดินทางไปพบกับนํ้าตก ป่า และหาดทรายสีขาว บรรยากาศธรรมชาติร่มรื่นดุจสวรรค์ที่ประเทศซามัว(Samoa) เกาะที่สงบสุขและงดงามแห่งนี้รู้จักกันในชื่อหัวในจองโพลินิเซีย (The Heart of Polynesia) พื้นที่เล็กๆที่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมของโพลินิเซีย พบกับความเชื่อ การรักษา ประเพณี และสังคมที่เรียกว่า Fa’a Samoa หรือวิถีแห่งซามัวน์ ดื่มดํ่ากับบรรยากาศทะเล สวน และประหลาดใจกับวิวมหาสมุทรแปซิฟิค สนุกสนานกับการแสดงท้องถิ่นไฟไฟ (Fiafia) วันต่อมาเยี่ยมชมฟาร์มของนักประพันธ์ชาวสก็อตที่ชื่อว่าโรเบิร์ต ลุยส์ สตีเวนสัน (Robert Louis Stevenson) และพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวในช่วงสุดท้ายของชีวิตของเขา

เดินทางไปสำรวจระบบนิเวศทางทะเลของเกรท เบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) หนึ่งในแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ประกอบด้วยเกาะ แนวโขดหิน และ แนวปะการังใต้ทะเล สวยงามจนองค์การยูเนสโก (UNESCO) รับรองให้เป็นมรดกโลก แหล่งอนุบาลของปลายูนิคอน, ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า, ปลานกแก้วหัวโหนก และเต่าทะเล

อีกทางเลือกหนึ่ง : บุกชมความน่าอัศจรรย์ของป่าฝนเดรนทรี (Daintree) ป่าที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและความสวยงามที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นบ้านของต้นไม้และสัตว์ที่จะหาที่อื่นไม่ได้นอกจากออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของวัฒนธรรมพื้นเมืองที่น่าสนใจซึ่งจะทำให้เพลิดพลินระหว่างการเดินป่า ด้วยการนำทางจากไกด้ท้องถิ้น