Ayathai

Luxury Everest BaseCamp

Bangkok - Kathmandu ปฐมบทการผจญภัยพิชิต Everest Base Camp

ออกเดินทางสู่ เมืองกาฐมาณฑุ (Kathmandu) เมืองหลวง และเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเนปาล (Nepal) ความสูงกว่า 1,300 เมตร เมืองแห่งแบ็คแพ็คเกอร์ จุดเริ่มต้นของการผจญภัยพิชิตเอเวอเรส เที่ยวชม จัตุรัสและพระราชวังกาฐมาณฑุ ที่นำเอาศิลปะแบบนีโอคลาสสิกของยุโรปเข้ามาประยุกต์กับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม หลังจากนั้นเดินทางไป ทาเมล ศูนย์รวมอุปกรณ์การเทรคกิ้งที่มีขนาดใหญ่มากของเนปาลเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้


Lukla การเริ่มต้นของ Everest Base Camp เส้นทางที่เป็นที่ใฝ่ฝันของนักเดินทาง

ออกเดินทางโดยเครื่องบินจาก กาฐมาณฑุ ไปถึง เมืองลุคลา (Lukla) เมืองเล็กๆ แต่คึกคักเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นเอเวอร์เรส และยอดเขาในเทือกหิมาลัยอีกหลายยอด และเริ่มอุ่นเครื่องเดินเบา ๆ กันก่อน โดยการเดินจาก ลุกลา ไป Phakding (ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง) เราจะตื่นตาตื่นใจกับวิวทิวทัศน์สวยงามที่อยู่ใกล้เพียงมือเอื้อม และยังสัมผัสถึงวิถิชีวิตของชาวบ้านตลอดเส้นทาง


Namche Bazaar เมืองเล็กๆท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขา

ออกเดินสู่ เมืองนัมเช  บาซ่าร์ (Namche Bazaar) ช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง เมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาที่ความสุง 3,440 เมตร ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเทือกเขาหิมาลัย  เส้นทางช่วงนี้เป็นการเดินขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับเป็นการวอร์มร่างกายให้คุ้นกับการเดิน ให้ท่านซึมซับวิวมุมสูงที่สวยงามของ แม่น้ำ Dudh Kosi  และป่าที่เขียวชอุ่ม


Namche Bazaar พักผ่อนสบายๆไปกับวิวท่ามกลางหุบเขาที่ซับซ้อน

พักปรับร่างกายที่ นัมเซ เดินไปชมความสวยงามของยอดเขาต่างๆ และกลับลงมาเดินเล่นชิลๆ ในตลาดนัมเช หรือบริเวณหมู่บ้าน ดูบ้านเรือนที่ไล่เรียงลงไปตามไหล่เขา และพบกับรูปปั้น เทนซิง นอร์เก (Tenzing Norgay) ผู้ที่สามารถพิชิตเอเวอร์เรสคนแรก นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ของชาวเชอร์ปาที่นำเสนอวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่น


Tyengboche หมู่บ้านอุ่นเครื่องก่อนจะได้สัมผัสถึงยอดเขาเอเวอเรส

หลังจากพักมาหนึ่งวันเต็มๆ ก็กลับสู่การเดินกันอีกครั้ง ปลายทางอยู่ที่ หมู่บ้านเทงบอเช (Tyengboche)  หมู่บ้านของชาวศาสนาพุทธนิกายมหายาน ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง เส้นทางมีความหลากหลาย ทั้งผ่านอุโมงค์ต้นไม้ และเลียบหน้าผา แต่ก็มีทางลงยาวๆให้ท่านได้ผ่อนแรง อีกทั้งยังมีวิวยอดเขาในก้อนเมฆให้เห็นอยู่ตลอดทาง


Dingboche สถานที่ที่จะได้ยลยอดเขาเอเวอเรสเป็นครั้งแรก

เดินทางกันต่อไปที่ หมู่บ้านดิงบอเช่( Dingboche) หมู่บ้านกลางหุบเขา (ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง) เมื่อยิ่งสูง วิวสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นทุ่งข้าว ป่าสนที่มีใบไม้สีเขียวประปราย ดอกไม้บ้างพอให้ชื่นใจ ภูมิทัศน์ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล รอบกายเวิ้งว้างกว้างใหญ่ แต่ที่นี้ก็เป็นที่ๆท่านจะได้เห็นยอดเขา Everest เป็นครั้ง


Thukla เส้นทางที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามมากจนละสายตาไม่ได้

ออกเดินต่อไปที่ โลบูเช (Lobuche) ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง เส้นทางค่อนข้างเดินสบาย วิวข้างทางสวยงามมากโดยเฉพาะที่ ทูคลา (Thukla)  ก่อนจะเดินผ่านอนุสรณ์สถานของผู้ที่เสียชีวิตบนเส้นทางเอเวอเรส ระหว่างทางท่านอาจจะได้ห็น ยัก (yak) สัตว์เลี้ยงท้องถิ้นที่หน้าตาหมือนวัวที่มีขนยาวๆปกคลุมเพื่อป้องกันอากาศที่หนาวเหน็บ


Everest Base Camp ปลายทางที่น่าภาคภูมิใจของนักพิชิต

ออกเดินทางสู่โกเรกเชป (Gorakshep) เส้นทางค่อนข้างโหดเพราะ บางช่วงอากาศอาจจะเจอกับลมแรง หนาว  ราวกับเป็นการวัดใจจาดเอเวอร์เรส พักทานอาหารเที่ยงที่ โกเรกเชป ก่อนเดินต่อไปที่จุดหมายที่ทุกคนตั้งเป้าหมายไว้ “เอเวอร์เรส เบส แคมป์” จุดที่นักเดินเขามืออาชีพพักเป็นฐานเพื่อเตรียมตัวไปสู่ยอดเขาเอเวอร์เรส ให้ท่านสัมผัสบรรยากาศของจุดเริ่มต้น จุดที่ทุกคนมีความมุ่งหมายเดียวกันคือขึ้นสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก


Kathmandu ย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้นของการผจญภัยแสนยิ่งใหญ่ด้วยเฮลิคอปเตอร์

เดินทางกลับจากเอเวอร์เรส เบส แคมป์ ไป ลุคลา และ กาฐมาณฑุ ด้วยเฮลิคอปเตอร์


Kathmandu อำลาทริปสุดแสนประทับใจที่เมืองกลางหุบเขาแห่งประเทศเนปาล

เที่ยวชมเก็บตกและอำลา เมืองกาฐมาณฑุ ถนนและตลาดของที่เต็มไปด้วยสีสันของวิถีชีวิตคนท้องถิ่น เยียมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ท่านไม่ควรพลาด เช่น วัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath) วัดในศาสนาฮินดูที่ชาวเนปาลนิยมเป็นอย่างมาก เจดีย์พุทธนาถ (Boudhanath) เจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีด้วยตาขนาดใหญ่อยู่ด้านบน เป็นสัญลักษณ์ของเนปาล วังของกุมารี เทพธิดาผู้มีชีวิตจริงของชาวเนปาล เป็นการผสมผสมานกันระหว่างความเชื่อในศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาแบบธิเบตหรือวัชรยาน